
มิติด้านสิ่งแวดล้อม
มิติด้านสิ่งแวดล้อม
นโยบายและแนวปฏิบัติด้านสิ่งแวดล้อม
บริษัทฯ ตระหนักถึงความสำคัญของการดำเนินธุรกิจภายใต้หลักการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยคำนึงถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
จึงได้กำหนดนโยบายความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมขึ้น เพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทฯ ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยมุ่งส่งเสริมให้มีการให้ความรู้และการฝึกอบรมแก่บุคลากรในทุกระดับอย่างทั่วถึง เพื่อเสริมสร้างความตระหนักรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับวัตถุประสงค์ของการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ตลอดจนกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับอื่นที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ เนื่องจากบริษัทฯ มีเป้าหมายในการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนร่วมกับลูกค้า ชุมชน และผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน จึงได้มีการแต่งตั้งคณะทำงานด้านสิ่งแวดล้อมและด้านการจัดการพลังงาน เพื่อทำหน้าที่บริหารจัดการ วางแนวทาง และกำกับดูแลการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมให้มีประสิทธิภาพ และเป็นไปอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน
ผลดำเนินงาน
1. ระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม ISO 14001 : 2015
เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2567 บริษัท สหเครน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้รับมอบใบรับรองระบบมาตรฐานการจัดการสิ่งแวดล้อม ISO 14001:2015 จากบริษัท บูโร เวอริทัส เซอทิฟิเคชั่น (ประเทศไทย) จำกัด
ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ในการดำเนินธุรกิจภายใต้หลักการพัฒนาอย่างยั่งยืน นอกจากการพัฒนาคุณภาพของสินค้าและบริการอย่างต่อเนื่องแล้ว บริษัทฯ ยังแสดงให้เห็นถึงความตระหนักในความสำคัญของการจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นระบบ เพื่อสนับสนุนการพัฒนาทางธุรกิจควบคู่ไปกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ลดผลกระทบต่อระบบนิเวศ และส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ซึ่งนำไปสู่การลดต้นทุนในการดำเนินงานในระยะยาว บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญต่อการจัดการด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในสถานประกอบการอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อส่งเสริมสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัยและเอื้อต่อสุขภาวะของพนักงานในทุกระดับ

* ใบรับรองมาตรฐานการจัดการสิ่งแวดล้อม ISO 14001:2015 ได้รับการรับรองเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2567
2. การบริหารจัดการของเสีย
การจัดการของเสีย บริษัทฯ ตระหนักถึงความสำคัญของการกำจัดของเสียอย่างถูกต้องตามกฎหมายว่าด้วยโรงงานอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในธุรกิจหลักซึ่งมุ่งเน้นงานบำรุงรักษาเครื่องจักร
ที่แม้จะไม่จำเป็นต้องใช้วัตถุดิบในปริมาณมากและไม่ก่อให้เกิดของเสียในระดับสูง แต่ของเสียที่เกิดขึ้น เช่น ตะกอนดินจากกระบวนการกรองน้ำมัน หรือสารเคมีที่ใช้ในขั้นตอนการบำรุงรักษา ยังคงต้องได้รับการจัดการอย่างเหมาะสม บริษัทฯ จึงดำเนินการคัดแยก จัดเก็บ และส่งกำจัดของเสียเหล่านี้โดยอาศัยผู้ให้บริการกำจัดของเสียที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายและผ่านการรับรองจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนโดยรอบ
นอกจากนี้ กลุ่มบริษัทฯ ยังให้ความสำคัญต่อการมีส่วนร่วมกับสังคมและชุมชน โดยมุ่งเน้นการพัฒนาอย่างทั่วถึงและยั่งยืน สนับสนุนกิจกรรมเพื่อประโยชน์สาธารณะ โดยเฉพาะในกลุ่มชุมชนที่ขาดโอกาส รวมถึงส่งเสริมการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ การไม่กระทำการใด ๆ ที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม และการปลูกฝังจิตสำนึกด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมให้แก่พนักงานทุกระดับอย่างต่อเนื่องและจริงจัง

จากข้อมูลข้างต้นจะพบว่า ปี 2567 ปริมาณขยะอันตรายประเภทวัสดุปนเปื้อน ไส้กรองปนเปื้อน กระป๋องสเปรย์ หลอดไฟ และน้ำมันใช้แล้ว ทั้งหมด 5.10 ตัน คิดเป็นร้อยละ 90 % (อ้างอิงข้อมูลจาก กอ.2/2567) และขยะรีไซเคิลได้มอบให้แก่เทศบาลคลองตำหรุในโครงการ “ขยะในมือคุณ คือบุญอันยิ่งใหญ่” และโครงการผ้าป่าขยะรีไซเคิล “เก็บวันแม่ ทอดวันพ่อ” ทั้งหมด 0.54 ตัน คิดเป็นร้อยละ 10%
ปริมาณการกำจัดขยะ
หน่วย: ตัน
3. การบริหารจัดการน้ำ
บริษัทฯ ตระหนักถึงความสำคัญของการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ
ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ดำเนินมาตรการประหยัดน้ำและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำในกระบวนการทำงานมาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการตรวจสอบและควบคุมปริมาณการใช้น้ำอย่างสม่ำเสมอ
ปริมาณการใช้น้ำ ปี 2565-2567
หน่วย: ลูกบาศก์เมตร
4. การจัดทำข้อมูลคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร (Carbon Footprint for Organization: CFO)
ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขององค์กร ฐานข้อมูลปี 2565 จำนวน 2,878 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (tCO2eq)
ในปี พ.ศ. 2567 บริษัทฯ ได้รับการรับรองมาตรฐานการประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กรตามข้อกำหนดของ ISO 14064-1 และตามแนวทางขององค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ TGO เพื่อรับรองฐานข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในรอบปี พ.ศ. 2565 (ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2565) การประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กรดังกล่าวได้ผ่านกระบวนการทวนสอบและตรวจติดตามภายในองค์กรอย่างรอบด้าน และได้รับการตรวจสอบความถูกต้องโดยผู้เชี่ยวชาญจากบริษัท บูโร เวอริทัส เซอทิฟิเคชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นหน่วยงานรับรองที่มีความน่าเชื่อถือในระดับสากล

* ใบรับรองมาตรฐาน ISO 14064-1 การได้รับการรับรองเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2567

* ใบรับรองมาตรฐานองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์กรมหาชน): TGO ได้รับการรับรองเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2567